ตำแหน่งงานที่ต้องการ :
ครูอนุบาล , ครูผู้ช่วย, นักสังคมสงเคราะห์, ธุรการ
เงินเดือนที่ต้องการ :
17,000
สถานที่ต้องการทำงาน
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด :
18-กรกฎาคม-2540
ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้สะดวก
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษาสูงสุด :
ปริญญาตรี
สาขา :
สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
วิชาเอก :
การพัฒนาเด็ก เยาวชน และครอบครัว
ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ระดับ |
ชื่อสถาบัน |
จังหวัด |
ประเทศ |
ปีการศึกษา |
วุฒิที่ได้รับ |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
xxx |
ความสามารถทางด้านภาษา
ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT )
โปรแกรม |
|
1. โปรแกรมสำนักงาน (Word , Excel , Powerpoint , Access) |
|
2. โปรแกรม Multimedia (Cai , Flash , Autoware , etc. ) |
|
3. โปรแกรมตัดต่อ VDO , sound , Effect ( Premier , Ulead , Sound Forge , etc. ) |
|
4. โปรแกรมสร้างกราฟิก ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ( photoshop , Illustrator , etc. ) |
|
5. โปรแกรมสร้างเว็บไซต์ ( Dreamweawer , Wordpress , CMS ต่างๆ หรืออื่นๆ ) |
|
6. การพัฒนาซอฟต์แวร์ |
6.1 Window based Application |
|
6.2 Web based Application |
|
6.3 Mobile Application |
|
7. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญ |
|
8. Database ที่ชำนาญ |
|
9. ระบบเครือข่าย ( ติดตั้ง-ซ่อมบำรุง ) |
9.1 Window |
|
9.2 Linux / Unix |
|
10. การซ่อมบำรุงเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์ , ปรินท์เตอร์ , อื่นๆ ) |
|
ความสามารถทางด้านดนตรี
เครื่องดนตรี |
|
1. เครื่องดนตรีไทย (ระนาด , ขลุ่ย , ซอ , พิณ ฯลฯ ) |
|
2. เครื่องดนตรีสากล ( เปียโน , คีย์บอร์ด , กีตาร์ ฯลฯ ) |
|
ความสามารถทางด้านอื่นๆ
ความสามารถ :
สังคมสงเคราะห์ด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว , Child development, Child and Family welfare, Case Assessment, Case Planning, Empathy , Detail-Oriented , Work under pressure, Critical thinking , Fast learner , Self-motivated
เกียรติประวัติ - รางวัลต่างๆ
รางวัล |
จากสถาบัน |
ปี พ.ศ.ที่ได้รับ |
เกียรตินิยมอันดับ2 |
ธรรมศาสตร์ |
2564 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติการทำงาน
ประสบการณ์การทำงาน :
xxxx ปี
1 )
ชื่อสถานประกอบการ 1 :
xxxx
ตำแหน่ง 1 :
นักศึกษาฝึกงาน แผนกสวัสดิการครอบครัว
2 )
ชื่อสถานประกอบการ 2 :
xxxx
ตำแหน่ง 2 :
นักศึกษาฝึกงาน
การฝึกอบรม
หัวข้อ |
สถาบัน |
ระยะเวลา |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
บุคคลผู้รับรอง ( อ้างอิงได้ )
ลำดับ |
ชื่อ |
นามสกุล |
ความสัมพันธ์ |
สถานที่ติดต่อ |
เบอร์โทรศัพท์ |
1 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
2 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
3 |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
xxxx |
แสดงความรู้ ความเข้าใจ และทัศนะของท่าน
1)ทัศนคติต่อการศึกษาไทย :
ส่วนตัวดิฉันมองว่า การศึกษา เป็นสิ่งที่ควรเข้าถึงง่าย เป็นปัจจัยพื้นฐานที่เด็กทุกคนในสังคมต้องได้รับ แต่ระบบการศึกษาของไทยนั้นยังคงมีปัญหามีความเหลื่อมล้ำ ทำให้มีเด็กที่เข้าไม่ถึงการศึกษา หรือหลุดออกจากระบบการศึกษาอยู่มาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและเด็กในครอบครัวที่มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ยากจน ซึ่งเป็นปัญหาที่มาจากระบบโครงสร้างทางสังคมอีกที ทั้งนี้ งบประมาณด้านการศึกษาของไทยไม่ได้น้อยหรือมากเกินไป แต่มีปัญหาในการกระจายทรัพยากรงบประมาณที่ไม่เท่าเทียม ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียน เพราะโรงเรียนได้งบประมาณตามจำนวนนักเรียน ทำให้โรงเรียนขนาดเล็กหรือโรงเรียนในชนบทจะมีความเสียเปรียบมากกว่า กล่าวคือ โรงเรียนขนาดเล็กซึ่งมีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน จะได้รับงบประมาณรายหัวต่ำเนื่องจากจำนวนนักเรียนที่น้อย ทั้งที่จริงแล้วโรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้ต้องการงบประมาณมาจัดการการศึกษาไม่ต่างจากโรงเรียนที่มีนักเรียน 200 คน ซึ่งจากสถิติแล้วไทยมีโรงเรียนขนาดเล็กจำนวนมากถึง 51 เปอร์เซ็นต์ของโรงเรียนทั้งหมด ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อล้ำระหว่างโรงเรียน เด็กต้องพยายามดิ้นรนเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนประจำจังหวัดหรือในกรุงเทพมหานครที่ค่าเทอมสูง เพราะมีชื่อเสียงและมีการจัดการศึกษาที่ดีกว่าโรงเรียนขนาดเล็ก ส่วนเด็กที่อยู่ชายขอบ มีปัญหาทางเศรษฐกิจ หรืออยู่ในกลุ่มยากจนพิเศษก็ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก หรือต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาไป เพราะเขาไม่สามารถหาทุนทรัพย์เพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนดีมีชื่อเสียงได้ ทั้งๆที่เด็กทุกคนควรได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน
อีกทั้ง ประเทศไทยมีโครงสร้างการศึกษาในภาครัฐที่ค่อนข้างเป็นราชการที่รวมศูนย์อำนาจ ในการกำหนดนโยบายทางการศึกษาจึงไม่มีกระบวนการที่เปิดโอกาสให้ครูมีส่วนร่วมแบบตรงไปตรงมาในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษา ทั้งนี้ ถ้าให้ครูผู้ปฏิบัติงานโดยตรงได้สะท้อนเสียงในสิ่งที่ตัวเองคิดหรือต้องการก็จะช่วยเคลื่อนการศึกษาให้ก้าวหน้าไปได้ดีขึ้น
2)ทัศนคติของท่านต่อสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน :
ส่วนตัวดิฉันคิดว่า สภาพสังคมไทยในปัจจุบันนั้นยังคงมีความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ ความเหลื่อมล้ำทางการเมือง และความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่เป็นปัญหาใหญ่แต่ส่งผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหายิบย่อยตามมา รวมทั้งกระทบต่อสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยกตัวอย่าง เช่น เด็ก ปัจจุบันพบว่าเด็กในสังคมไทยที่เป็นเด็กด้อยโอกาสนั้นมีอยู่จำนวนมาก และยังแบ่งย่อยออกได้อีกหลายประเภท ทั้งเด็กที่ยากจนมากเป็นพิเศษ เด็กที่ถูกทอดทิ้ง เด็กที่ถูกทำร้ายทารุณ เด็กในชนกลุ่มน้อย เด็กเร่ร่อน เด็กที่ถูกบังคับค้าประเวณี ขายแรงงาน หรือแรงงานเด็ก เด็กที่มีปัญหายาเสพติด และเด็กที่อยู่ในสถานพินิจ รวมทั้งเด็กอีกหลายล้านคนที่เข้าไม่ถึงการศึกษาแม้แต่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กด้อยโอกาสเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เพียงไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ยังมีปัญหาภายในครอบครัวของเด็ก ที่ย่อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กด้วยเช่นกัน ทั้งพ่อแม่ยากจน มีพ่อแม่ติดสารเสพติด หรือถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว เป็นต้น เด็กเหล่านี้ที่ถูกความเหลื่อมล้ำและระบบโครงสร้างทางสังคมทำให้พวกเขากลายเป็นเด็กด้อยโอกาสจากการเข้าไม่ถึงหรือตกหล่นจากระบบบริการทางสังคมอันเนื่องมาจากรัฐที่ไม่สามารถสร้างโครงข่ายการคุ้มครองทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเพียงพอ
3)กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการกับการศึกษา :